ประกันภัยรถส่วนบุคคลไม่ว่าจะเป็นประกันภัยรถยนต์หรือประกันจักรยานยนต์นั้นจะถูกแบ่งประเภทของประกันภัยออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือประกันภัยภาคบังคับและประกันภัยภาคสมัครใจ สำหรับประกันภัยภาคสมัครใจนั้นเราจะทำหรือไม่ทำประกันก็ได้ไม่ถือว่าผิดกฎหมายแต่อย่างใด ซึ่งหมายความว่าหากใครขับขี่รถจักรยานยนต์แล้วอยากทำประกันจักรยานยนต์ก็สามารถทำได้ หรือใครไม่อยากทำประกันจักรยานยนต์ก็ได้เช่นกัน แต่ประกันภัยภาคบังคับไม่เหมือนกับประกันภัยภาคสมัครใจ ประกันภัยภาคบังคับนั้นเป็นสิ่งที่รถทุกคันต้องทำ ซึ่งประกันภัยภาคบังคับหรือที่เรารู้จักในชื่อว่า พ.ร.บ.นั้นมีชื่อเต็มว่าพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ซึ่งพรบ.เป็นกฎหมายที่บังคับให้รถทุกคันที่จดทะเบียนกับทางกรมการขนส่งทางบกต้องทำและมีไว้เป็นหลักประกันให้กับผู้ขับขี่, ผู้โดยสาร รวมไปถึงผู้ใช้รถใช้ถนนว่าจะได้รับสิทธิความคุ้มครองและรับค่ารักษาพยาบาลจากการเกิดอุบัติเหตุจากเงินกองกลางที่รถทุกคันได้ทำ พ.ร.บ. ไว้
ประกันภัยรถส่วนบุคคลหรือประกันจักรยานยนต์
ประกันภาคบังคับหรือประกันรถยนต์ภาคบังคับ (Compulsory Motor Insurance) เป็นประกันภัยที่กฎหมายกำหนดให้เป็นความจำเป็นสำหรับผู้ถือกรมธรรม์รถยนต์ทุกคันในประเทศไทย ประกันภาคบังคับมักมีการคุ้มครองต่อบุคคลภายนอกเมื่อเกิดอุบัติเหตุที่มีการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ต่อคุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในกรณีบาดเจ็บ ซึ่งประกันภาคบังคับจะคุ้มครองตามข้อกำหนดที่กฎหมายกำหนด โดยสรุปความคุ้มครองของประกันภาคบังคับได้แก่คุ้มครองต่อบุคคลภายนอก คุ้มครองค่าเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลภายนอกที่เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งรวมถึงค่ารักษาพยาบาล ค่าปรับทรัพย์สิน และค่าสินไหมทดแทนอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด
ค่ารักษาพยาบาล ค่ารักษาพยาบาลสำหรับบุคคลภายนอกที่เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุตามที่กำหนดในกรมธรรม์ ค่ารักษาพยาบาลส่วนตัว ค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารในรถที่เป็นเจ้าของกรมธรรม์ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุและได้รับบาดเจ็บ ค่าเสียหายต่อทรัพย์สิน ค่าเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอกที่เกิดขึ้นในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ความรับผิด ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก โดยที่ประกันภาคบังคับจะคุ้มครองความรับผิดตามกฎหมายที่กำหนด การมีประกันภาคบังคับเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายและเป็นการป้องกันตนเองและผู้อื่นในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด แต่ควรระมัดระวังในการเลือกประกันภาคบังคับเพราะมีความคุ้มครองที่จำกัดและอาจไม่เพียงพอต่อความเสียหายที่รุนแรง
การขับขี่จักรยานยนต์มีประโยชน์ในด้านสุขภาพและสภาพทางกาย เป็นการออกกำลังกายที่ดีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ มันยังเป็นวิธีการเดินทางที่รวดเร็วและที่ปลอดภัยในการเคลื่อนย้ายในเมืองและชุมชน ด้วยความยืดหยุ่นในการเลือกเส้นทาง และความสามารถในการหลีกเลี่ยงการจราจรที่แออัด สำหรับบางคน การขี่จักรยานยนต์ยังเป็นกิจกรรมที่สนุกสนานและท้าทาย เหมาะสำหรับการปั่นเส้นทางภูเขา และการเข้าร่วมกิจกรรมแข่งขันที่ต่างหาก เช่น ปั่นทางลาดชัน แข่งขันเร็ว เป็นต้น